Welcoem to posts!!
in the future - u will be able to do some more stuff here,,,!! like pat catgirl- i mean um yeah... for now u can only see others's posts :c
แคท - แคทรียา อิงลิช
----------------------
> ชาว 90's ผมว่าใครๆ ก็ต้องรู้จักพี่แคท ในฐานะนางเอกสาวสวย ที่แสดงละครคู่กับพี่หนุ่ม ศรราม ในเรื่อง "น้ำใส ใจจริง" อันแสนโด่งดัง
> จริงๆพี่แคท มีผลงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เล่นมิวสิควีดีโอ จนถึงภาพยนต์
> รวมไปถึงพิธีกรรายการเด็ก "คิดดี้แคท" ที่เพลงประกอบรายการยังติดหูอยู่เลย "คิดดี้ คิดี้ แคทๆ" ที่พี่แคทเป็นคนร้องไว้ โดยรายการนี้ออกอากาศในช่วงปี พ.ศ. 2537 นู้นเลย ในขณะนั้นพิธีกรรายการอย่างพี่แคท ก็มีอายุประมาณ 18 ปีเท่านั้น
> จากการร้องเพลงประกอบรายการนี้ ทางแกรมมี่ก็ได้เชิญให้มาเป็นศิลปินจนได้ออกอัลบั้มอย่าง "Kat around the clock" ในช่วงปี พ.ศ. 2544
** ตัวผมเองก่อนที่พี่แคทจะออกอัลบั้ม ก็จดจำได้จากการเป็นพิธีกร และนางเอกละครที่ดังมากๆ แล้ว
> ในอัลบั้มนี้มีเพลงโคตรฮิตที่ในปี พ.ศ. 2567 ยังคงมีวงดนตรีหยิบมาเล่นกันอยู่อย่างเพลง "O.K. นะคะ"
คำร้อง : บรรจง ประดิษฐ์คำ
ทำนอง : ม.ล.บวรชัย สุขสวัสดิ์
เรียบเรียง : วารุศ รินทรานุกูล
"O.K. นะ คะ นะคะ เจอะกัน ซักแป๊บ นึง
โอ๊ย คิดถึงจังเลย ไม่เจอ กันมาตั้งนาน
O.K. นะคะ นะคะ ออกมา มาหา กัน
รู้ รู้บ้างหรือเปล่า คนขี้เหงา เขาอยาก เจอ"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=ZbY7-...
> เพลงนี้ประสบความสำเร็จสูงมากๆ กลายเป็นเพลงที่ฮิตมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี
> หลังจากนั้นพี่แคทก็ได้ทำโปรเจกต์ที่กลายเป็นตำนานอย่าง 2002 ราตรี และ แฟนจ๋า ร่วมกับพี่เบิร์ด ธงชัย
> พี่แคทเกิดในปี พ.ศ. 2519 นั่นแปลว่า ในปี พ.ศ. 2657 เธอจะมีอายุ 48 ปี!!! แต่ยังสวยหุ่นดี เหมือนเมื่อตอนออกอัลบั้มแรกอยู่เลย
> และคนที่เคยดูรายการ "คิดดี้แคท" เมื่อ 30 ปีก่อน ก็แซงพี่แคทไปไกลแล้ว (แอดมินเอง แง้ง!!)
----------------------
** ผมเขียนเรื่องราวถึงพี่แคท เพราะล่าสุดมีคอนเสิร์ตของ RS - Gmm ที่ภายในงานพี่แคทไปร่วมด้วย โดยภาพที่เห็นคือพี่แคทในวัย 48 ยืนเต้นเพลง "แน่นอก" ที่พี่เด็บบี้ บาซู กำลังร้องอยู่ ฮ่าาาาาาา เต้นเหมือนเป็นเจ้าของเพลงเลยครับ
** คงพูดได้แค่ว่า กาลเวลา ทำอะไรพี่แคทไม่ได้เลยจริงๆ ยังสวยเสมอ หุ่นดี และเต้นเก่งเหมือนเดิมครับ
366 - 6
NOLOGO สตูดิโออัลบั้ม Gravity พ.ศ. 2551
-----------------------------------
4 สมาชิกวง
-----------------------------------
ปกรณ์ ลัม : ร้องนำ, ซินทิไซเซอร์
จิตรานันท์ ผงพิลา : กีตาร์
คาสุฮิโร่ ฮาตาโน่ : เบส
ยิ่งใหญ่ หุณชนะเสวีย์ : กลอง
-----------------------------------
> หลายๆคน คงรู้จักกับนักร้องนำในฐานะของ ศิลปินไอดอลจากยุค...90's ละกันนะ (ปี พ.ศ. 2539) พี่โดม ปกรณ์ ลัม อยู่แล้วแหละ
> ภาพจำของพี่โดม ก็เหมือนนักร้อง RS ท่านอื่นๆ ที่หล่อ เท่ ร้องเพลงรัก ใสๆ สไตล์ RS
> แต่ช่วงหลังๆ พี่แกทำอัลบั้ม Question เองละมั้ง แล้วอัลบั้มก็หลุดกรอบความเป็นศิลปิน RS ไปไกลเลย แต่ก็ยังมีเพลงที่ได้รับความนิยมอยู่เช่น "งมเข็มในทะเล" หรือ "ยังไงก็ขอบใจ"
> จนไปถึงอัลบั้ม Naked แหละ แล้วพี่โดมก็ไม่ต่อสัญญากับ RS
> ได้ข่าวว่าพี่แกไปเรียนเรื่องของซาวน์ ที่เมืองนอก ก่อนจะกลับมาทำเพลงกับ SmallRoom ในอัลบั้ม Smallroom 003 โดยใช้ชื่อว่า "Nologo" แทนคำว่า "โดม ปกรณ์ ลัม" คงเพราะไม่อยากให้ใครจดจำภาพของนักร้อง RS นั่นแหละ
** อัลบั้มนี้วางขายในปี พ.ศ. 2546 ละมั้งนะ ส่วนชื่อ Nologo ถ้าผมจำไม่ผิดนะเป็นชื่อของแก๊งค์สเก็ตบอร์ดของพี่โดม ก่อนเข้า RS (ถ้าใครรู้ข้อมูลมากกว่านี้บอกกันหน่อยนะครับ)
> เพลงของ NOLOGO เพลงแรกที่ปล่อยออกมาคือ "เวียน" เป็นดนตรีที่ผมคิดว่า "สไตล์ทดลอง" ซะมากกว่า
"ที่เดิน ที่เดิน ตรงที่เดิน ที่เดิน ตรงที่เดิม ตรงที่เดิน ตรงที่เดิม
ตรงที่เดิน กับ ที่เดิม ตรงที่เดิน ตรงที่เดิน ตรงที่เดิม"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=JwjLi...
> หลังจาก Small Room วง Nologo ก็เดินหน้าเข้าสู่ค่ายยักใหญ่ Grammy และทำอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า How to be a rockstar (พร้อมกับสมาชิกอีก 2 คน คุณชมพู เล่นกีตาร์ และคุณหญิง เล่นคีย์บอร์ด) ในปี พ.ศ. 2548
> อัลบั้มนี้โดนวิจารณ์ว่าฟังยากมากๆ ผมไม่รู้ว่าจะร้องเรียกเพลงในอัลบั้มนี้ว่าอะไรคล้ายๆเป็น Electronics และ Punk ผมสมกัน
> เพลงแรกของวงที่ผมได้ฟังก็แปลไม่ออก (ณ ช่วงเวลานั้น) อย่างเพลง "Palanoid"
"เจอะแล้วนอย ต้องเจอะทุกซอยแหละ
เจอะแล้วนอย เจอะแล้วนอย
เจอะแล้วนอย เจอะแล้วง่อยแตก
เจอะแล้วนอย
เจอะแล้วนอยแหก"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=toSZA...
> ผมต้องไปถามเพื่อนๆ และพี่ๆเลยนะว่า "นอย" คืออะไร (วะ) 5555
> ถึงอัลบั้มแรกจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ อาจจะด้วยคนติดภาพลักษณ์ของนักร้องนำนั่นแหละ แต่ทาง Nologo ก็ได้รับไฟเขียวนะ ให้ทำอัลบั้มถัดมาก็คือ Mosaic และในอัลบั้มนี้พวกเขาปรับเปลี่ยนสมาชิกเป็น 4 ท่าน
> แนวเพลงก็เปลี่ยนไปกลายเป็น Electronic Rock ที่ดูจะลงตัวแล้ว มีเพลงที่ผมชอบมากๆอยู่หนึ่งเพลงนะ "ยินดี"
คำร้อง : คงเดช จาตุรันต์รัศมี
ทำนอง : คงเดช จาตุรันต์รัศมี
เรียบเรียง : NOLOGO
" วันที่ได้ยินข่าว ข่าวความรักของเธอ
ฉันรับฟังเรื่องราว กลับคิดถึงวันเก่า
วันที่เคยเป็นของเรา ฉันยังเศร้าไม่หาย ... "
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=bwWSG...
> หลังจากอัลบั้มนี้พวกเขาก็ทำอัลบั้มที่ลงตัวมากๆ สำหรับวง Nologo อย่าง Gravity ในปี พ.ศ. 2551
> อัลบั้มนี้ทั้งแนวทางของวง ดนตรีที่ลงตัวมาตั้งแต่อัลบั้มที่แล้ว ส่วนผสมที่กำลังพอเหมาะพอดี (ที่จะขาย) ระหว่าง Rock ที่คนทั่วไปชอบ และ Electronic ที่ทางวงพยายามจะนำเสนอ ไม่มีส่วนไหน มาก หรือน้อยไป ลงตัวมากๆ
> ในอัลบั้มนี้ ทางวงได้ทำเพลงประกอบภาพยนต์สี่แพร่ง ที่โคตรดีเลยอย่างเพลง "กลัว" ที่เดิมเป็นของ ปาล์มมี่ และ Nologo นำมาทำใหม่ในสไตล์ของตัวเอง
คำร้อง : จอมทอง ดาวคะนอง
ทำนอง : รุ่งโรจน์ ผลหว้า
เรียบเรียง : วัฒนกร ศรีวัง
"เพราะว่าใจกลัว กลัวว่าเธอจะทิ้งกันจากไป ลืมคนที่เคยบอก...รัก"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=Z0iAj...
> เพลงนี้ลงตัวมาก เป็นเพลงที่ผมมองว่ากลมกล่อมที่สุด ทำให้เราลืมไปเลยว่าปาล์มมี่ร้องไว้แบบไหน
> เป็นเพลงของ Nologo ที่จะกลับไปฟังกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ กับอีกเพลงที่ผมชอบมากๆ "เธอเลือกคนไม่ผิด" : https://www.youtube.com/watch?v=HRkKx...
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=Z0iAj...
> เพลงพวกเขาโคตรเท่เลยนะลงตัวมากๆ แตกต่างจากอัลบั้มแรก และก็ดูทรงว่าได้ไปต่อแน่ๆ ดีงามเลยแหละ ฟังง่าย ย่อยง่าย แนวเพลงไม่ซ้ำใครดี
> แต่หลังจากอัลบั้มนี้ทางวงก็ไม่ไปกันต่อ แยกย้าย จบโปรเจกต์ Nologo ไว้เพียงที่อัลบั้มนี้
-----------------------------------
** บ้านเรามี ศิลปินที่เป็น Electronic Rock อยู่ประมาณนึง และบางท่านก็ทำเพลงแนวนี้ออกมาได้ดีมากๆ อย่างเช่น "ถือว่าเราไม่เคยพบกัน" Abnormal ที่ Feat. พี่ตุล : https://www.youtube.com/watch?v=vKuEm...
** แต่ก็นะ กลุ่มคนฟังเพลงแบบนี้มีน้อย และก็ต้องยอมรับว่าไม่สามารถขายงานได้ พูดง่ายๆคือ มีคนชอบเพลงนั่นแหละ แต่ไม่ทำเงิน ก็ไปกันต่อไม่ได้ ศิลปินก็นานๆ จะทำงานแนวๆนี้ทีนึงด้วย
** วง Electronic Rock ที่ประสบความสำเร็จมากๆ ก็วง Zeal แหละ ที่เห็นกันชัดๆ มีใครถอดรหัสความสำเร็จได้ไหมว่าทำไม พวกเขาถึงไปได้ไกล ในขณะที่วงอื่นๆ ที่เพลงออกมาดีงามมากๆ อย่าง Nologl ไปไม่รอดในตลาดเพลง ลองแวะมาพูดคุยกันนะครับ
127 - 6
Midnight Pianissimo (มิดไนท์ เปียนิสโม่)
--------------------------------------
4 สมาชิกจากอัลบั้ม Morph
--------------------------------------
นัท ณัฐชา โภคาพันธ์ : ร้องนำ
ลูป วสวัตต์ มีแก้ว : กีตาร์
ไปป์ สืบพัฒน์ ลีเลิศพงษ์ : กีตาร์
ลอว์ ชานนทร์ ช่างอาวุธ : กลอง
* ทางวงมีการปรับเปลี่ยนสมาชิกบ่อยครั้ง ผมเลือกเอาเฉพาะที่อยู่หน้าปกอัลบั้มละกันนะครับ
--------------------------------------
> จริงๆ ตัววงในอัลบั้มนี้จะมีชื่อเหลือเพียงแค่ Pianissimo (เปียนิสโม่)
> และอัลบั้มที่ชื่อว่า Morph ก็เป็นอัลบั้มชุดที่ 2 ของตัววงด้วย โดยอัลบั้มแรกมีชื่อว่า Project Destiny
> นักร้องนำในอัลบั้มนี้ก็ไม่ใช่นักร้องนำจากชุดแรก
> อัลบั้มนี้มีเพลงเพียง 7 แทรคเท่านั้น (แปลตรงตัว, ทิ้งน้ำตาไว้ที่เดิม, ความเหงา, หัวใจที่หายไป, เชื่อในความรัก, โธ่ และ ด้วยหัวใจ)
> ตัววงน่าจะมีชื่อเสียงอยู่ในช่วง ปี พ.ศ. 2552 - 2553 นี่แหละ ไม่ชัวร์เหมือนกัน
> พวกเขาเป็นกลุ่มศิลปินเล็กๆ ที่อยากมีผลงานเป็นของตัวเอง ผมได้ฟังเพลงอัลบั้มแรกแล้ว แต่จำไม่ได้ (ขอโทษด้วยค้าบ) แต่จำเพลงในอัลบั้มที่ 2 ได้นิดหน่อยนะ มี 2 - 3 เพลงที่น่าจะพอคุ้นหูกันอยู่บ้าง
ความเหงา : https://www.youtube.com/watch?v=McNai...?
หัวใจที่หายไป : https://www.youtube.com/watch?v=ub2gI...
เชื่อในความรัก : https://www.youtube.com/watch?v=TJDDV...
> 3 เพลงที่ว่ามาถูกปล่อยออกมาในช่วงปี 2552 บน Youtube ยุคนั้นผู้คนยังฟังเพลงจากวิทยุกันอยู่ Youtube น่าจะยังไม่ได้รับความนิยมในการฟังเพลงเท่าไหร่ (ผู้คนยังใช้มือถือ Nokia กันอยู่เลย BB เพิ่งเริ่มเข้ามาและ iPhone Classic ก็มีแต่คนรวยเท่านั้นที่ซื้อได้)
> แต่ยอดวิวของเพลงพวกเขาไม่ธรรมดานะ หลัก สามแสน ถึงเจ็ดแสนวิว เลยนะ (เยอะมากๆแล้ว)
> และพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า "แคมปัสทัวร์" คือการได้รับโอกาสไปเล่นดนตรีตามโรงเรียนต่างๆ
> ผมมีโอกาสได้เป็นทีมงานเล็กๆ ในงานนึงที่พวกเขาไปเล่นจึงได้เห็นโชว์สดๆของทางวง
> ผมประทับใจนะ เล่นกันได้ดีเลยละ ถึงแม้เล่นเพลงตัวเองจะเงียบๆ (ธรรมดา ไม่แปลกเท่าไหร่นะ) แต่พอเล่นเพลงศิลปินดังๆ ผู้คนก็ลุกขึ้นเต้นกันยับเลย อย่างเพลง "อยากร้องดังดัง" ของปาล์มมี่ ทางวงทำได้ดีมากๆ โชว์สนุก และน่าจะไปได้อีกไกล
> โดยเฉพาะความน่ารัก และเสียงร้องของนักร้องนำในตอนนั้น "คุณนัท" ที่เอาจริงๆ โคตรน่ารักเลย ร้องเพลงก็ดี โชว์บนเวทีก็ยอดเยี่ยมเลย เอ็นเตอร์เทนคนดูได้ ไม่เขิน ไม่อาย ไม่ติดขัด
> แต่พอจบอัลบั้มนี้กับ แคมปัสทัวร์ ผมก็ไม่ได้เห็นตัววงนะ รู้แค่ว่ามีการเปลี่ยนสมาชิกอีกรอบ โดยคุณนัทนักร้องคนเก่าออกไปแล้วนั่นเอง
> และที่ตอนแรกกระแสที่น่าจะดี กลับเงียบหายไปเลย ไม่รู้ว่ายังไง ตัววงไม่ทำเพลงต่อ หรืออะไร ก็ไม่รู้เลยเพราะตอนนั้นไม่ได้มี social media แบบทุกวันนี้ เล่นกันแต่ HI5 ใครเล่นเล่น Facebook ก็ยังไม่มีปุ่มกดไลค์เลยตอนนั้นอะ
> เท่าที่ผมจำได้เลือนลาง เพราะผ่านมานานหลายปีแล้วก็คงมีประมาณนี้แหละ
--------------------------------------
** ถ้าใครกดเข้าไปดูลิงก์เพลงที่ผมแปะไว้ก็จะเห็นนางเอกมิวสิควีดีโอ ที่ตอนนั้นยังไม่มีชื่อเสียง แต่ตอนนี้เธอเพิ่งจะถูกมือกีตาร์รูปหล่อ จากวง SDF ขอเป็นแฟนไปเมื่อไม่นานมานี้เอง (ต.ค.67)
** คงต้องถามว่า "รู้จักกันไหมครับ มิทไนท์ เปียนิสโม่" เพราะถ้าถามเรื่องเพลงอาจจะตอบกันยากหน่อยแหละ หรือรู้จักเพลงของพวกเขากันบ้างไหมละ ลองมาพูดคุยกันครับ
ปล. ผมว่าถ้าสมาชิกวงมาเห็นโพสต์คงช็อคกันแน่ๆละ ฮ่าาา ผ่านมานานหลายปีมากๆ แล้วด้วยนะ
115 - 4
วงร็อคสุดร่ำรวย - ไปส่งกู บขส. ดุ๊
----------------------------------
5 สมาชิกวง
บูม - เอกภาพ ป้านภูมิ : กีต้าร์
อ๋อง - โชติกะ คำสุขะ : ร้องนำ
อ๊อฟ - เรืองวิทย์ ไสเหลื่อม : กีต้าร์
โขง - ภาสกร สิงหา : เบส
ต้า - กฤตภาส ฉพรรณรังษี : กลอง
----------------------------------
> วงดนตรีที่เกิดจากนักศึกษา ม.ข. รวมตัวกันเพื่อทำเพลงละครเวที และมีพี่ๆวง "ขอนแก่น" เป็นไอดอล
> เพลงแรกคือ "หนี" และตามมาด้วย "พนักงานสวนสัตว์"
"มึงเป็นใคร อ๊าย! ตกใจมันถามดังเกิน
จึงตอบกลับไป กูเป็นพนักงานสวนสัตว์
มึงเป็นใคร อ๊าย! ตกใจมันถามดังเกิน
จึงตอบกลับไป กูเป็นพนักงานสวนสัตว์"
ไปฟังเพลงได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=q10ik...
> พวกเขาโด่งดังเป็นอย่างมากในมหาลัยขอนแก่น ระดับซุปตาร์ เวลาไปไหนมาไหนต้องใส่หน้ากาก เพื่อปกปิดหน้าตา เพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว
> จนถึงวันที่วงอยู่ในช่วงท๊อปฟอร์ม พวกเขาได้รับการติดต่อจากทีมงานของ "บิ๊กเมาท์เทน" ให้ไปขึ้นโชว์
> แรกเริ่มพวกเขาก็ลังเล ว่าจะไปดีไหม แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจกันว่า "ไป"
** ภายหลังมีการเปิดเผยว่าพวกเขาถูกเลือกก็เพราะว่า "แปลก!"
> หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มทำเพลงใหม่ และเริ่มโด่งดังและกลายเป็นสุดยอดวงร็อคชั้นนำ ฝีมือจัดจ้าน
> จนถึงการมาของเพลงโคตรฮิตระดับตำนาน "ม้าลายอยากขับรถจิ๊บ" ที่มีท่อนร้องที่ทรงพลัง กับเนื้อเพลงที่ลึกซึ้ง คนที่ฟังจะต้องน้ำตาไหลพราก
"บรึนบรึ้นบรึนบรึ้นบรือบรื้อบรือ"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=kvj_N...
> พวกเขากลายเป็นผู้นำของชาวร็อคไปในทันที
> ผู้คนต่างก็อยากจะไปรับชมพวกเขาเล่นคอนเสิร์ตสดๆ สักครั้งนึงเพราะว่ามีตำนานเล่าขานว่าพวกเขา "แจกเงินให้คนมาฟัง" ใช่ครับ แจกเงินจริงๆ
> จากเหตุนี้เอง พวกเขาถึงได้ฉายา "วงร็อค ฐานะร่ำรวย"
> และบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดของวงก็คงไม่พ้นนักร้องนำเสียงทรงพลัง และโด่งดังที่มีชื่อในวงการว่า "ดีเจอ๋องแอ๋ง สบัดแผ่น"
> คุณอาจจะไม่เคยได้ฟังเพลงของพวกเขาหรอก แต่คุณจะต้องเคยเห็นรูปหน้าของนักร้องนำท่านนี้ อยู่ในที่ใด ที่หนึ่งบนโลกใบนี้แน่นอน
** รูปอยู่ในคอมเมนท์
> เขามีความสามารถสูงมาก ถ้าใครอยากพิสูจน์ให้ไปลองฟัง Back in Black (AC/DC) ที่วง ไปส่งกู บขส.ดู๊ นำมา Cover แล้วจะรู้ว่าเขาไม่ธรรมดา : https://www.youtube.com/watch?v=Y97vp...
> พวกเขามีเพลงน่าสนใจหลายเพลง "ฉันเป็นสโมกเกอร์นิ", "พ่อผมเป็นสุลต่าน", "ถังน้ำแข็ง" และเพลงชื่อโคตรแปลก "ฉันเจอวัวป่าโคโรโวเก้"
> เรื่องราวของวงก็คร่าวๆ ประมาณนี้แหละ ฮ่าาาาา
----------------------------------
** ส่วนตัวผมรู้จักชื่อเสียงของวง แต่ไม่เคยฟังเพลงเลย จนกระทั้งมีน้องท่านหนึ่งเป็นมือกีตาร์ชื่อว่า "จ๊ะอู๋" เขาพูดชื่อเพลง "ม้าลายอยากขับรถจิ๊บ" ขึ้นมา และผมก็เกิดความสงสัยว่าประโยคที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไร
** จ๊ะอู๋ จึงบอกว่าเป็นของวง "ไปส่งกู บขส. ดุ๊" และตบท้ายด้วยคำว่า "พี่ฟังเพลงน้อยอะ" !!! ทำให้ผมต้องไปเริ่มไล่ฟังเพลงของทางวง และหาข้อมูลวงนี้ขึ้นมาทันที ฮ่าาา
119 - 1
ตำนาน กลุ่มศิลปินประสานเสียง Acappella 7
---------------------------
5 สมาชิกวง
---------------------------
เดียร์ - นักรบ แนวณรงค์
แม๊ค - ศรัณย์ วงศ์น้อย
โอปอลล์ ตันตยานุสรณ์
ต้น - เมธี อภินันท์ธรรม
ทิม - อาทิตย์ พิบูลธรรม
---------------------------
> กลุ่มศิลปินสุดแหวกแนว จากค่าย RS ที่มีผลงานในปี พ.ศ. 2545
> ก่อนหน้าจะได้ออกอัลบั้มกับ RS พวกเขามีสมาชิกวงกันอยู่ 5 คน ทำวงกันตั้งแต่เรียนมหาลัยที่เชียงใหม่แล้ว
* หนึ่งในนั้นคือ "พี่โซ่ ETC" ด้วยนะ
* พี่โอปอลล์ ยังอยู่เมืองนอกยังไม่ได้มาร่วมวงด้วย
> เป็นกลุ่มประสานเสียงที่ทำขึ้นมาสนุกๆ โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า 7 Seven (เซเว่น)
> เริ่มต้นจากพี่แม๊ค มีโอกาสได้ทำงานกับ เบเกอรี่มิวสิค (แบบห่างๆๆๆๆ) ค่ายเพลงเล็กๆ ที่ฮิตมากในเมืองเชียงใหม่ โดยเป็นลูกมือของอาจารย์ท่านหนึ่งที่ทำหน้าทีขายเทปให้ทางค่าย
> มีวันนึงหน้า ม.ช. อาจารย์ท่านนั้น ได้เชิญ 3 ผู้บริหารเบเกอรี่มายังร้านเทปที่ชื่อ "กุ๊กไก่" ร้านเปิดใหม่ที่ขายแต่ผลงานของศิลปินจากเบเกอรี่เท่านั้น (เป็นไปได้โคตรยากที่จะเชิญมาทั้ง 3 ท่านพร้อมกัน แต่ก็เป็นไปแล้ว)
> โดยภายในงานเปิดร้านเทปมีโชว์ของวงดนตรีอยู่ 2 วงก็คือ 7 และ ETC.
> ETC. ตอนยุคเริ่มต้นมีพี่เดียร์เป็นนักร้องนำอยู่ พี่หนึ่งยังไม่เข้าวง
> ทำให้พี่โซ่ และพี่เดียร์ จะต้องเล่นทั้ง 2 วงนี้
> หลังโชว์จบ พี่บอย โก เรียกทั้ง 2 วงไปคุยด้วย แล้วบอกว่าสนใจวง อยากร่วมงานด้วย
> จากทำเพลงสนุกๆ ก็เริ่มจริงจังขึ้น จนทางวง Seven ได้รับการติดต่อจากเบเกอรี่ให้มาร้องคอรัสเพลง "โกหก" ของ "โจอี้บอย" ในอัลบั้ม "ตัวฤทธิ์"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=hCVtS...
> ทางค่ายส่งเดโม่มาให้ตัววง และให้สิทธิ์ในการออกแบบเสียงประสานได้ตามใจเลย
> 7 เข้าไปทำการบันทึกเสียงที่เบเกอรี่ และค้นพบความจริงว่าพวกเขา "ยังไม่พร้อม" สำหรับการเป็นศิลปิน แต่เพลงนั้นก็สำเร็จออกมาได้ด้วยดี
> จากประสบการณ์ในการทำงานครั้งนี้ทำให้ 7 รู้ว่า "พวกเขาควรซ้อม จนถึงระดับของการเป็นศิลปินได้"
> จนถึงช่วงที่ค่ายอย่างเบเกอรี่กำลังมีปัญหาภายใน และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น
> ทาง 7 ได้เข้าไปคุยกับเบเกอรี่อยู่บ้างเรื่องทำเพลง ทำให้ช่วงนั้นทางวงยังหาข้อสรุปของการเป็นศิลปินภายใต้สังกัดค่ายขนมปังไม่ได้
> พวกเขาจึงทำผลงานเองในฐานะวงอินดี้ โดยเริ่มขายกันเองที่เชียงใหม่
* อาจารย์ในตอนต้นที่พี่แม็คเป็นลูกมือ ออกเงินให้ทำอัลบั้ม และพวกเขานำเงินมาคืนได้ เพราะอัลบั้มขายดีมากๆ
> ทางวง 7 ที่ไปคุยกับเบเกอรี่ เลยทำให้มีโอกาสได้เจอกับพี่โก้ แซ๊กแมน และพี่หนึ่ง จักรวาล โดยทั้ง 2 คนชื่นชอบผลงานของพวกเขามากๆ
* 7 พวกเขาเคยได้รับการเวิร์คช๊อปจากพี่โก้ และพี่หนึ่ง ตั้งแต่อยู่เชียงใหม่แล้ว ทำให้สนิทกันพอสมควร
> พี่หนึ่งได้ชักชวนให้ทางวงมาโชว์ที่ร้านๆหนึ่ง และแอบชวนฝ่ายแคสติ่งของ RS มาดูโชว์ในวันนั้นด้วย และนำแผ่น CD ของวงไปให้ทางค่ายฟังด้วย
> หลังจากโชว์ในวันนั้นเพียงไม่นานเท่าไหร่ ทางวงจึงได้รับการติดต่อจาก RS ว่าอยากเชิญมาเป็นศิลปินในค่าย
---------------------------
** พวกเขาได้ออกอัลบั้มแรกที่ชื่อว่า Dog ในปี พ.ศ. 2545 และเพลงในอัลบั้มนั้นก็คือเพลงจากสมัยอินดี้นั่นเอง และทางวงมีผลงานทั้งหมดราวๆ 3 สตูดิโออัลบั้ม และอีก 1 อัลบั้มรวมฮิต หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปครับ ^^
** ใครเคยฟังเพลงของ AC7 บ้างครับ มีเพลงไหนที่ชอบบ้าง คอมเมนท์มาแนะนำผมหน่อยนะครับ
120 - 7
ภาพเวลาเดิมๆ - Good September
----------------------------
7 สมาชิกวง
1. โป้ง - วิบูลย์ศิริ วิบูลย์มา : ร้องนำ
2. อั้ม - ธเนศ จรัสรุ่งสิริกุล : ร้องนำ
3. นิว - ปิโยรส เวปุลละ : กีต้าร์
4. เติ้ง - วิทวัน วิโรจน์ไตรรัตน์ : กีต้าร์
5. กอล์ฟ - ณัฐฤกษ์ จงเสถียร : เบส
6. เดล - วีรเดช สากิยลักษณ์ : กลอง
7. เอ็ม - กษิต พรหมศิริ : เพอร์คัสชั่น
** เริ่มแรกวงมีพี่โป้ง เป็นนักร้องคนแรก และต่อมาพี่โป้งก็ติดภารกิจไปเมืองนอก ทางวงจึงชวนนักร้องอีกท่านก็คือพี่อั้ม มาร่วมร้องด้วย
----------------------------
- ตัววง เริ่มแรกเลยก็เป็นเพื่อน ที่เรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน และพวกเขาแต่ละคนก็เริ่มประกวดดนตรีเหมือนวงดนตรีมัธยมทั่วไป ที่นิยมทำกันนั่นแหละ (ก่อนหน้านั้นสมาชิกแต่ละคน อยู่คนละวงนะ ไม่ได้อยู่วงเดียวกัน)
- พอจบมัธยมปลาย แต่ละคนก็เริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่ทิ้งความฝันที่อยากจะเล่นดนตรี
- ในสักช่วงเวลาหนึ่งของเดือนกันยายน ทั้ง 6 คนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อเริ่มเดินตามหาความฝันที่จะเล่นดนตรี โดยการเริ่มทำเพลงด้วยกัน และตั้งชื่อวงว่า "Good September" เพราะแต่ละคนก็มีวงเป็นของตัวเอง ทำให้ต้องมีชื่อกลางระหว่างพวกเขาแต่ละคน ที่มารวมกัน
- พี่โป้ง นักร้องนำได้แต่งเพลง และพี่ๆในวงช่วยกันประกอบร่างจนได้เพลง "คนแรก" เสร็จสมบูรณ์ ถ้าผมจำไม่ผิดนะน่าจะอยู่ Black Sheep โดยที่ยังเป็นเพียงโปรเจครวมเพลงอยู่
** ใครมีลิงก์เพลงบ้างครับ ผมหาฟังได้แต่ไม่ใช่ Official เพราะมากๆ ดีงามมากๆ
- จนที่พวกเขามีโอกาสได้ทำอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเอง กับ Fine Tune Studio
- เรื่องราวของวงก็ประมาณนี้แหละ ใครมีเพิ่มเติมก็แว๊ะมาบอกผมหน่อยนะครับ
- ช่วงที่เพลงของวงกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนฟัง ผมเองน่าจะกำลังเรียน มหาลัยอยู่นั่นแหละ
- และในวิชาเรียนผมก็มีโจทย์ของการทำ MV ไปส่งอาจารย์ โดยจับกลุ่มกันกับเพื่อนๆ ทำโปรเจคนี้
- ข้อแรกก็คือต้องหาเพลงที่เราจะนำมาทำงานส่ง และเพื่อนคนนึงก็เสนอว่าให้ใช้เพลง "ภาพเวลาเดิมๆ" ของวง "Good September" มาทำดีไหม (เสนอแกมบังคับ)
- ทำให้ผมเองได้รู้จักเพลงนี้ และก็ฟังซ้ำแล้ว ซ้ำอีกเป็นร้อยๆรอบ เพื่อตีโจทย์ของการทำ MV ออกมา
"ติดอยู่กับภาพเวลาเดิมๆ ที่ทำให้ฉันนั้นต้องทุกข์ใจ
ภาพที่เคยมีเธอยังอยู่ และยังไม่หายไปฉันรู้ว่ามันเจ็บ
ปวดฉันรู้ว่ามันต้องหยุด และต้องเสียใจอีกต่อไป"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=SLF7g...
- เพลงนี้ถ้าฟังแบบปกติ ก็จะเป็นเพลงที่โคตรเพราะมากๆเพลงหนึ่งในยุคนั้นเลย
- แต่ถ้าฟังโดยที่เพิ่งอกหักมา เพลงนี้จะกลายเป็นเพลงที่สามารถทิ่มแทงหัวใจให้เหมือนตุยไปแล้ว ทั้งๆที่ยังหายใจได้อยู่
- ด้วยเนื้อเพลงที่ถูกเขียนมาราวกับมานั่งอยู่ในใจคนอกหักอย่างไง อย่างงั้นเลย
- เวลาที่อกหัก มองไปทางไหน ก็จะเจอแต่ภาพเดิมๆ จะไปสถานที่ไหน ก็จะเห็นภาพเดิมๆ ที่เคยมี "เธอคนนั้น" อยู่ที่ตรงนั้นด้วยเสมอ ก็เพราะว่าเรายังคง "ติดอยู่กับภาพเวลาเดิมๆ ที่ทำให้เรานั้นต้องทุกใจ" นั่นแหละ
----------------------------
** ตัววงมีเพลงดีๆ อีกเยอะมากเลยนะ อย่างเพลงฮิตๆก็ "อย่าเบื่อ...คำว่าเสียใจ" ที่ผมก็โคตรชอบเหมือนกัน : https://www.youtube.com/watch?v=ttzF0...
** ผมไม่รู้ว่าปัจจุบันทางวงมีสมาชิกอะไรยังไงนะ แต่ล่าสุด พี่โป้ง ไม่ได้ทำเพลงกับวงแล้ว เห็นว่าไปทำธุรกิจตกแต่งภายใน และพี่อั้มก็เป็นนักร้องหลักไปเลย
** ไม่รู้ว่ามีแฟนเพลงวง Good September บ้างไหมครับ แวะมาพูดคุยถึงพวกเขากันหน่อย เคยฟัง หรือชอบเพลงไหนกันบ้างครับ ^^ มาๆ
89 - 3
ครึ่งหลัง : Bodyslam - Sunny Side Up (พ.ศ. 2567)
--------------------------------
> ในอัลบั้ม Sunny S.U. มีเพลงประมาณ 10 แทรค และผมชอบทุกเพลงในอัลบั้มนี้จริงๆ ฟังตอนไปออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ
> อัลบั้มนี้หลายคนกลัวมากๆ รวมถึงผมด้วยว่า "จะฟังยากรึเปล่าวะ" พอได้ฟังก็จะเข้าใจแหละว่า "ไม่เลย" อัลบั้มนี้คือเรื่องราวของพวกเขา และพวกเราในวัยประมาณ 45 ปี ที่อยู่ในช่วงที่พี่ๆเขานิยามว่า "ครึ่งหลัง"
> ผมว่าเราหลายๆคนมองคนในวัย 45 เป็นคนที่กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณอายุ
> สิ่งที่ตามมาก็คือพวกเขาหลายคน รวมถึงผมด้วย "ประมาทในการใช้ชีวิต"
> บางครั้ง เราเองก็รู้สึกว่าเราอายุเยอะแล้ว (เหรอ?) เราไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆแล้ว ใช้ชีวิตไปแบบนี้แหละ สบายๆ ปล่อยจอย ปล่อยเบลอแล้ว ที่เป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว
> จะว่าไปมันก็ชิลดีนะ สบายๆ (เหรอ?) อะไรใหม่ๆ ก็ให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ละกัน อะไรที่เราไม่เคยทำ ก็แค่บอกว่า "ทำไม่เป็น" แก่เกินจะเรียนรู้แล้วก็พอ
> บางคนก็กำลังสู้กับสิ่งที่เรียกว่า "ชีวิต" กันอยู่ และเหนื่อยล้าเหลือเกินนี่ก็อายุ 45 ปี แล้วนะ ทำไมยังไม่สำเร็จสักที คงหมดหนทางที่จะไปถึงจุดหมายแล้วใช่ไหม
> ก็เป็นไปได้หลายอย่างนะครับ ผมเองก็ยังไม่ถึงช่วงเวลานั้นหรอก
> แต่...ในมุมมองของพี่ๆบอดี้สแลม เขามีมุมมองที่ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดมากๆจากบทเพลงที่ชื่อว่า "ครึ่งหลัง"
ทำนอง : อาทิวราห์ คงมาลัย
เนื้อร้อง : โป โปษยะนุกูล
เรียบเรียง : Bodyslam, วรวรรธน์ วิวรรธน์วณิชย์, พชร รัตนอรุณ
"เหลือเวลาเท่าไรไม่รู้ ทุกนาทีต้องมีความหมาย
จะผิดจะเพลี่ยงพล้ำ กัดฟันไปต่อ ยังไม่สายเกินไป
แพ้ชนะยังไม่ตัดสิน อะไรก็พลิกได้ในพริบตา
แม้ครึ่งแรกหมดไป เหลืออีกครึ่งชะตาจบลงเช่นไรไม่มีปัญหา ยินดี"
> แวะไปฟังเพลงนี้กันก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อก็ได้ครับ : https://www.youtube.com/watch?v=1r-DV...
> ผมเองมีโอกาสได้ไปรับชมมหรสพของพี่ๆบอดี้สแลม ที่อิมแพคอารีน่า และภายในคอนเสิร์ต "พี่ตูน บอดี้สแลม" พูดถึงเรื่องราวของ "ครึ่งหลัง" ภายในนั้นด้วย
** จำไม่ได้ 100% นะ ใครจำได้หมดมาพิมพ์บอกหน่อยนะครับ
> เราเองก็พอจะรู้มาว่าพี่ตูนแกอายุราวๆ 45 ปีแล้ว (พ.ศ. 2567) และก็ผ่านชีวิตมาเยอะแยะมากมายเลยละ ตั้งแต่ประกวด Hotwave จนไปอยู่ค่ายแมลง ออกอัลบั้มเพลงเบาๆในยุค 90's อย่างวง "ละอ่อน" และขอออกจากวงเพื่อเดินหน้าทำเพลงที่หนักขึ้น แต่ค่ายไม่ให้ออกอัลบั้มจนต้องไปร้องไห้ขอผู้บริหาร จนถึงวันที่มีคนมารอดูพวกเขาประมาณครึ่งแสนที่ราชมังฯ
> ก็เรียกได้ว่าชีวิตพี่แกประสบความสำเร็จสุดๆ ในฐานะศิลปินคนนึงเลยแหละ แต่เนื้อเพลงกลับไม่ได้บอกแบบนั้น
"แพ้ชนะ ยังไม่ตัดสิน อะไรก็พลิก ได้ในพริบตา"
> ณ ช่วงเวลาที่ผมเขียนบทความ (ตุลาคม 2567) ในบ้านเรามีข่าวใหญ่ครึกโครมกับพิธีกรอนาคตไกล ดารารุ่นใหญ่ในวงการที่ชีวิตสมบูรณ์พร้อม อีกท่านก็เป็นนางเอกดัง ที่สวยสุดๆ และมีทรัพย์สินราวๆ 500 ล้านบาท ที่กำลังเป็นประเด็นหนักหนา จนต้องขึ้นศาล และ .... ก็อย่างที่เห็นๆ
> พอย้อนกลับมาฟังเพลงอย่าง "ครึ่งหลัง" แล้วมันใช่เลยวะ
> อะไรๆ ก็พลิกได้ในพริบตานะเว้ย คนเราถ้าย้อนเวลา กลับไปแก้ไขวันวานได้ก็คงดี แต่เวลาก็มีเงื่อนไขของมัน มันย้อนกลับไปไม่ได้
> วัย 45 ปี เปรียบได้กับ การแข่งขันฟุตบอลที่ครึ่งแรกก็คือ 45 นาที ... ในครึ่งแรกทีมที่คุณรัก เล่นโคตรดีเลย ทำประตูได้ และเห็นแล้วว่าสดใสสุดๆ แฟนๆยิ้ม เชียร์กันทั้งสนาม ใครๆก็ว่าสดใสแน่ๆ หรือกลับกันทีมที่คุณเชียร์ โดนยิงประตูนำไปก่อนในครึ่งแรก และดูเหมือนว่าฟอร์มพวกเขาไม่ดีเลยแหะ
> แต่...ยังเหลือ "ครึ่งหลัง" อีกนะตั้ง 45 นาที แพ้ชนะ มันไม่ได้ตัดสินกันที่ "ครึ่งแรก" หรอกเว้ย มันยังมีโอกาสพลิกได้เสมอ
> เนื้อเพลงสั้นๆอีกประโยค ที่บอกว่า "เหลือเวลาเท่าไหร่ ไม่รู้ ทุกนาที ต้องมีความหมาย" ยิ่งรู้สึกว่า จริงวะ โคตรจริงเลย เกมส์มันพลิกได้ตลอดเวลา ทุกนาทีเลย
> พวกๆพี่ๆ บอกให้เรา "สู้ ให้สุดใจ" และหลังจากนั้น "จะจบลง เช่นไร ไม่มีปัญหา ยินดี"
--------------------------------
** สิ่งที่คนรู้มากที่สุดก็คือ "รู้งี้" หรือ "รู้แบบนี้" ที่พูดกันบ่อยๆ มันแปลว่าเรารู้ตัวว่าทำได้ดีกว่าถ้าตั้งใจ แต่เราไม่ทำเท่านั้นเอง ก็เลยพูดออกมาแบบนั้น
** กลับกันถ้าคุณสู้สุดใจ ทุ่มสุดตัว ท้ายที่สุดแล้วไม่สำเร็จ .. คุณจะไม่พูดว่า "รู้งี้" แน่ๆ แต่คุณจะพูดว่าอะไรกันครับ ... ลองคอมเมนท์มาพูดคุยกันนะครับ
** หวังว่าเราจะสู้สุดใจ ในช่วง "ครึ่งหลัง" นี้ไปพร้อมกันนะครับ (แม้ผมจะยังไม่ถึงก็เหอะ แต่ครึ่งแรกก็ต้องไม่ประมาทเหมือนกันแหละน่า)
178 - 2
Paradise จากวง T.O.M. (Tragedy Of Murder)
------------------------------
6 สมาชิกวง
------------------------------
Jeddy - ร้องนำ
Nunni - กีตาร์
Pro - กีตาร์
Boss - กีตาร์
Best - เบส
Tumkung - กลอง
------------------------------
> ในขณะที่แอดมินเพจ "คนบ้า หล่อ หรู ร้าย" กำลังเพลิดเพลินกับการฟังเพลงจากโปรเจค "Back to the Bakery" อยู่!!
** ให้นึกภาพผมกำลังฟัง Scrubb ที่ร้องเพลง "ความลับ" ของวง Pause นะ มันจะมีฟิลประมาณไหน
> สักพักผมก็นึกขึ้นได้ว่ามี Inbox มาทางเพจข้อความประมาณว่า "ฝากวง Tragedy of murder จาก Vom records ค่า🙏"
> พร้อมแนบลิงก์มิวสิควีดีโอเพลงที่ชื่อว่า "Paradise" มาให้ได้เสพกัน! เอ้ยยย ได้ฟังกัน
> ผมเองก็ไม่ได้รอช้าเลยจัดเลยจ๊ะ อยากฟัง อยากรู้ชอบนักเวลามีคนมาฝากเพลงเนี่ย ชอบจริงๆ แล้วก็ปรากฏว่าคำแรกที่ผมอุทานออกมาหลังจากดูมิวสิคไปรอบแรก "เชี่ยยย ภาพสวยชิบหายเลย"
> แล้วก็เข้าไปอ่านข้อมูลที่แนบมาด้วยว่าคืออะไรยังไง ภาพสวยจังวะ นี่มันไม่ใช่ธรรมดาแล้ว โหดเกิน
> จนได้รู้ข้อมูลว่าพวกเขาเข้าไปถ่ายทำยังสตูดิโอ Virtual Media Lab ที่อยู่ภายใน Thailand Creative & Design Center (TCDC) ซึ่งติดตั้งด้วย LED Wall ขนาดใหญ่ และใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบ Virtual Production หรือ ICVFX (In-Camera Visual Effects)....มาถึงตรงนี้ก็คงอยากบอกผมว่า "ช่วยพูดภาษาไทยได้ไหม" ฮ่าาาา เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เอาเป็นว่า ไปถ่ายทำมิวสิคในสถานที่ๆ มีจอ LED ทำให้ภาพมันออกมาโคตรสมจริงเลย ประมาณนี้ละมั้ง
> โดยทำงานร่วมกับ IRO9X หรือเหล็ก ผู้กำกับ และทีม RealBKK นะจ๊ะ
> ได้ข่าวว่ามิวสิควีดีโอนี้ใช้งบประมาณไปราวๆหลัก ล้านบาทเลยจ้าาาา ไอ้ห้าบ้าร้อยย สุดจริง
> มาถึงเพลงกันบ้าง กับเพลงในสไตล์ "เมทัลคอร์ เดธเมทัล" เฮือกกก ด้วยความที่กำลังฟังเพลงเบเกอรี่อยู่ แล้วต้องมาเปิดเดธเมทัลคั่นกลางนี่นะ
> ในใจคิดเลยว่า เพลงคนไทยป่าววะลำโพงจะแตกป่าววะ จะแสบแก้วหูป่าววะ จะไหวปะวะ ข้างบ้านจะแจ้งพี่หน่วงป่าววะ....ปรากฏว่าไม่ใช่เว้ย ไม่ใช่เพลงที่ฟังง่าย แต่เป็นเพลงที่ "ฟังได้แน่นอน"
> คงพูดได้เต็มปากเลยว่าไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่สำหรับคนที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ เหมือนผมเอง แนะนำว่าไม่ควรพลาด ดีไม่ดีนะฟังแล้วจะติดใจ บอกไว้ก่อน
> ไม่ใช่ว่าเพราะเขามาฝากวงแล้วจะพูดอวยอะไรนะ (ถึงแม้เพจนี้จะชอบอวยยศศิลปินก็เถอะ) แต่ปกติก็หาฟังเพลงของพวก Dir En Grey อยุ่แล้วแหละ ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าแปลกเท่าไหร่
> เอาจริงๆ ผมฟังหลายรอบมากกๆๆๆ เพื่อดูมิวสิคที่สวยฉริฟหายเลย เหมือนดู ATOT เพราะมีเอเลนร่างสุดท้ายโผล่มาด้วย ฮ่าาาา โคตรเท่
> เอาเป็นว่าไปลองฟังกันดูนะครับ บอกไม่ได้หรอกว่าเพลงดี ไม่ดียังไง แต่ส่วนตัวผมเองชอบมากกกก คุณสมารถดึงดูดผมด้วยมิวสิควีดีโอ ได้สำเร็จแหละยอมรับเลย แจ่มแมวจริงๆ
------------------------------
** ผมฟังอยู่หลายรอบเหมือนกันนะ ทำให้นึกถึงเพลงของวงหนึ่งวง ที่คนบางกลุ่มเท่านั้นจะรู้จักพวกเขา แต่ผมไม่อยากพูดถึงเพราะจะพาออกทะเลไปจาก "Paradise" ซะก่อน แต่ก็สปอยไว้นิดๆ นักร้องวงนั้นมีชื่อในวงการว่า "หลง" และผมก็ทำเรื่องราวของเขาไว้ในคลิปแล้วด้วยแหะ
> เพลงอย่าง "Paradise" เป็นเพลงที่ผมอยากให้คนที่ชอบฟังอะไรใหม่ๆ ได้ลองฟัง แต่ก็อย่างที่บอกแหละ ผมชอบมิวสิควีดีโอโคตรๆเลยแหะ เปิดดูจาก TV จอใหญ่ๆ ภาพสวยๆ เครื่องเสียงดีๆ รับรองว่าเพลินหู เพลินตาจ๊ะ
73 - 0
Rampage - แรมเพจ
-----------------------
4 สมาชิกวง
แดนนี่ - แดนนี่ รามณรงค์ : ร้องนำ
โอ่ง - วิสารท กุลศิริ : กีตาร์
เก่ง - นที แสนทวี : เบส
หนีด - สิทธิพันธุ์ บุญจันทร์ : กลอง
-----------------------
> วงแรมเพจ แรกเริ่มมีชื่อวงว่า "Fun Boys"
> ทั้ง 4 คน ทำเดโม่เพื่อไปเสนอค่ายเพลงยักใหญ่อย่าง แกรมมี่ ในช่วงปี พ.ศ. 2539
> ทางค่ายสนใจผลงานของพวกเขาเป็นอย่างมาก จึงมีการเซ็นต์สัญญากับค่ายอย่าง จีนีย์เรคคอร์ด
> ตอนที่เข้าจีนี่พวกเขาก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น "แรมเพจ"
> ทางวงแรมเพจใช้เวลาทำอัลบั้มกันนานพอสมควรจนในที่สุดพวกเขาก็ได้คลอดอัลบั้มแรก และอัลบั้มเดียวของวง ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2542 - 2543 ประมาณนี้แหละ จำปีไม่ได้ ใครรู้บอกหน่อยนะครับ
> ทางวงก็มีเพลงสไตล์ป๊อป - ร็อค ที่เป็นที่รู้จักอยู่บ้างอย่างเช่น "Bye Bye Love"
เนื้อร้อง : จานิน
ทำนอง : พงศ์พันธ์ แก้วมณี
เรียบเรียง : ธีระพงษ์ สังคะกุล
"แต่มันไม่เคยจะเป็น ไปตามที่เราคิดหรอก
เธอเป็นคนงอแง เธอจะเอาแต่ใจ
เธอบงการให้เรา คอยทำตามเรื่อยไป
พอเธอเป็นอย่างนั้น จะมีใครทนไหว"
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=1w3Ts...
> ด้วยความเท่ของนักร้องนำอย่างคุณแดนนี่ บวกกับสไตล์เพลงที่ฟังง่าย สบายๆ ทำให้ตัววงเริ่มจะเป็นที่รู้จักในวงการเพลงอยู่บ้าง
> เสียดายทางวงออกอัลบั้มได้เพียง 1 ชุดเท่านั้น คุณแดนนี่ ก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ทำให้วงเกิดสูญญากาศทางด้านงานเพลง
> มีการคุยกันว่าจะทำวงให้เป็น 3 ชิ้น โดยมีพี่โอ่ง เป็นนักร้องนำ ไปพร้อมกับเล่นกีตาร์ด้วยเลย ... แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เกิดขึ้น
> จนพวกเขาได้พบกับนักร้องท่านใหม่ และเปลี่ยนชื่อวงอีกครั้ง เพื่อเดินหน้าต่อไปในวงการเพลงครับ
-----------------------
> ในยุคสมัยของแรมเพจ ช่วงนั้น D2B กำลังมาแรง กลบทุกกระแสในวงการเพลงบ้านเราเลย และก็กลายเป็นยุคสมัยของบอยแบนด์ไปแทน
> วงร็อคก็เติบโตอยู่เงียบๆ มีเพียงไม่กี่วงที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนฟัง และก็ยากมากที่จะขึ้นมาเป็นวงดนตรีที่อยู่ในกระแสหลัก ...
-----------------------
** แต่เอาเข้าจริงๆ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ดนตรีกระแสไหนขึ้นมาเป็นกระแสหลัก แต่เพลงร็อคไม่เคยมีวันตายเลยครับ อยู่มาได้ตลอดแหละ
** ผมว่ายุคนั้นต้องมีคนได้ฟังเพลงของ แรมเพจบ้างแหละ ไม่มากก็น้อย ผมทำโพสต์นี้ขึ้นมาก็เพราะมี แฟนเพลงของทางวงส่งลิงก์เพลงมาให้ฟัง แล้วบอกว่าทำเรื่องของแรมเพจหน่อย ฮ่าาา ผมก็ไม่รู้ว่ามีแฟนเพลงพวกเขาอยู่เยอะขนาดไหนนะครับ ยังไงก็แสดงตัวกันหน่อยครับ เหล่าแฟนคลับแรมเพจ!
215 - 9
Yokee Playboy อัลบั้ม โยคี เพลย์บอย
--------------------------------------
> จริงๆ โยคีเพลย์บอย เป็นกลุ่มศิลปินโดยมีพีโป้ เป็นนักร้องนำ
> หลังจากอัลบั้มแรก สมาชิกก็แยกย้ายกันไป เหลือแต่พี่โป้
> เริ่มแรกพี่โป้เป็นคนชอบเล่นกีตาร์ เล่นกีตาร์อย่างเดียวเลย
> จนมีเพื่อนโทรมาชวนให้ไปเล่นแบคอัพให้กับศิลปินของค่ายขนมปัง
> วงของศิลปินท่านนั้นมีนักร้อง มือกลอง มือกีตาร์ (ที่เป็นเพื่อนพี่โป้) ขาดก็แต่มือเบส จึงได้ชักชวนเขามาเล่น
> เขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะไม่เคยเล่นเบสมาก่อน แต่เพื่อนๆ ก็ป้ายยา ทำให้เขาเองได้รับหน้าที่นั้น และเริ่มออกทัวร์
** ภายหลังผมได้ฟังสัมภาษณ์พี่โป้ ตามรายการต่างๆ พี่แกมักจะบอกว่า อย่าเล่นเบสแบบแกนะ 555 แกเล่นเป็นกีตาร์ ซึ่งมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
> หลังจบทัวร์ของศิลปินท่านนั้น ทางค่ายเห็นแววความเฟี้ยวฟ้าวของพี่โป้ ก็เลยอยากทำเพลงให้
> ตอนแรกพี่โป้เป็นมือกีตาร์ แล้วต้องเข้าห้องอัดในฐานะ นักร้อง เขาร้องไม่ได้เลย ร้องยังไงก็ไม่ผ่าน จนทางค่ายต้องเชิญพี่บอย โก มาช่วย และทำให้เขามีผลงานแรก น่าจะเป็นเพลงประกอบละครละมั้ง (ไอ้คุณผี) ในช่วงปี พ.ศ. 2538 (เพลงยังพอหาฟังได้อยู่นะ แต่ผมขอไม่แปะลิงก์ละกัน)
> จนช่วงประมาณปี พ.ศ. 2539 ทางพี่สุกี้ เคยได้พบกับพี่โป้ในงานคอนเสิร์ต และพี่โป้แกเอาเพลงของเขาให้พี่สุกี้ ก็เลยได้พูดคุยกันและชักชวนมาเป็นศิลปิน
> ทีแรกเห็นว่าจะเป็นศิลปินเดี่ยวๆนี่แหละ แต่พี่โป้แกอยากทำเป็นวงดนตรีมากกว่า ก็เลยชักชวนสมาชิกมาร่วมแจมด้วย
> ชื่อวงมีที่มาจากครีเอทีพท่านหนึ่ง ที่เห็นว่าสมาชิกวงตอนนั้นหน้าตาออกแขกๆ และดูแต่ละคนก็เฟี้ยวๆทั้งนั้น ก็เลยบอกว่า "โยคี เพลย์บอย" เป็นที่มาของชื่อวง และใช้มาจนทุกวันนี้แหละ
> อัลบั้มแรกมีชื่อว่า "โยคี เพลย์บอย" แต่ไม่มีใครเรียกชื่อนั้นหรอก ทุกคนเรียกอัลบั้มนี้ว่าชุด "นมหนาม" เท่านั้น!!
> ในช่วงเวลาที่อัลบั้มวางขาย ทางค่าย และตัววงเองชื่นชอบอัลบั้มนี้เป็นอย่างมาก แต่ทางด้านการขายอัลบั้มนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก
** เพลงของพวกเขายังเข้าไม่ถึงคนฟังใน พ.ศ. นั้นเท่าไหร่ ได้ข่าวว่าช่วงออกทัวร์ทางวงไม่ได้รับเสียงตอบรับจากคนฟังเลย แต่วงอื่นๆ ที่ออกทัวร์ได้คนฟังชอบพวกเขามาก
> จุดนี้ทำให้ตัววงผิดหวังมากๆ และในที่สุดก็วงแตก เหลือเพียงแค่พี่โป้ กับสมาชิกอีกท่านนึงเท่านั้น ที่เหลือแยกย้ายกันไปหมดแล้ว
> แต่ทางค่ายไม่ได้สนใจเรื่องนี้ พวกเขาเป็นค่ายที่ทำเพลง และเชื่อมั่นใจตัวศิลปิน พวกเขาจึงได้ทำงานต่อในนามของ "โยคี เพลย์บอย"
> ในอัลบั้มนี้มีเพลงที่ผมโคตรชอบอยู่หนึ่งเพลงก็คือเพลงอย่าง "คำตอบ" ได้ฟังตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้วด้วย แต่ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงของใครกันแน่ มารู้ตอนที่โตแล้วในระดับหนึ่งครับ
"อยากรู้ ว่าเธอคือคนเช่นไร
อยากรู้ เธอมาหมอกร้ายก็หายไป
อยากรู้ ทิศทางเธอมานั้นเพื่อใคร
ให้คำตอบ กับฉัน ให้เธอบอก คำนั้น
ให้เธอลอง บอกฉัน ว่ารักเธอเพื่อนใจกันและกัน "
ไปฟังเพลงที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=VG686...
> เพลงนี้จริงๆแล้วถูกแต่งมาเพื่อให้พี่ๆวง Soul After six นำไปร้อง แต่ทางวงโซลมองว่าเพลงนี้เหมาะกับพี่โป้มากกว่า ก็เลยให้พี่โป้นำเพลงนี้ไปทำเอง
> และก็ออกมาเป็นเพลงที่โคตรชอบที่สุดในอัลบั้มนี้เลย
--------------------------------------
** กว่าอัลบั้ม "นมหนาม" จะได้รับการยอมรับจากคนฟังเพลง ก็ต้องอาศัยเวลาที่ยาวนานหลายสิบปีเหมือนกันแหะ
** ผมว่าคนที่เป็นแฟนเพลงค่ายขนมปัง พวกเขามีรสนิยมในการฟังเพลงที่แตกต่างจากผู้คนทั่วไปอยู่พอสมควรเลยนะ เพราะเพลงของค่ายไม่ใช่กระแสหลัก เราแทบจะคาดเดาไม่ได้เลยว่าศิลปินจะผลิตงานอะไรออกมา เพลงแนวไหน โชว์อะไร ปล่อยของอะไรบ้าง นั่นเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของพวกเขา ที่หลายๆคนจากยุคนั้นคิดถึงแน่ๆครับ
** ใครเรียกอัลบั้มนี้ว่า "นมหนาม" แบบผมบ้างครับ 555 รายงานตัวกันหน่อย เคยฟังอัลบั้มนี้กันไหม ชอบเพลงไหนบ้าง คอมเมนท์มาคุยกันนะครับ
121 - 2
เรื่องราวความบันเทิงต่างๆ หนัง เพลง วงดนตรี ศิลปิน ที่คุณสนใจให้คุณฟังเพลินๆ
- เรื่องราวน่าสนใจต่างๆ รอบโลก เรื่องแปลก เรื่องที่เป็นกระแสอยู่ในสังคม
- เรื่องราวของ บุคคลที่มีชื่อเสียง, ศิลปิน, นักแสดง, นักกีฬา และ นักธุรกิจ
- เกมส์ใหม่น่าเล่น เกมส์เก่าที่โคตรเก๋า
- เรื่องราวความน่าสนใจในโลกภาพยนต์